ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

สุธี สุขสมกิจ

สุธี สุขสมกิจ เกิดวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2521 เป็นอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย ปัจจุบันเล่นให้กับสโมสรกระบี่ เอฟซี ในระดับดิวิชั่น 1

โดย สุธี สุขสมกิจ ได้รับการบันทึกไว้ว่าเป็นนักฟุตบอลคนแรกที่สามารถคว้าตำแหน่งดาวซัลโวไทยพรีเมียร์ลีกได้ถึง 2 ฤดูกาลติดต่อกัน โดยเขาทำได้ในฤดูกาล 2542 และฤดูกาล 2543 สมัยที่ยังเล่นให้กับสโมสรธนาคารกสิกรไทย

ในนามทีมชาติไทย สุธี เริ่มสร้างชื่อเสียงจากทีมชาติไทยชุดเยาวชน จากการคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชีย ในรุ่นอายุไม่เกิน 16 ในปี พ.ศ. 2539 และต่อมาได้ไปแข่งขันฟุตบอลโลก ระดับเยาวชนอายุไม่เกิน 17 ปี ที่ประเทศอียิปต์ ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่

ในการแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ 2004 ที่ประเทศจีน สุธียิงประตูให้กับทีมชาติไทยได้ในนัดที่แพ้ทีมชาติญี่ปุ่น 1-4 ที่สนามกีฬาฉงชิ่ง ซึ่งประตูดังกล่าวถือเป็นประตูแรกในเอเชียนคัพของทีมชาติไทยนับตั้งแต่เข้าร่วมการแข่งขันเป็นต้นมา

นอกจากนี้ในการแข่งขันระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้สุธี สุขสมกิจจะไม่เคยลงเล่นในกีฬาซีเกมส์ แต่ก็เคยคว้าแชมป์ไทเกอร์ คัพ กับทีมชาติไทย 2 สมัย

สุธี สุขสมกิจ เป็นชาวจังหวัดตราด จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนบ่อไร่วิทยาคม ก่อนจะย้ายมาเรียนในชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน

สุธี เริ่มต้นเล่นฟุตบอลอาชีพครั้งแรก โดยเข้าร่วมสโมสรฟุตบอลธนาคารกสิกรไทย ที่มีชาญวิทย์ ผลชีวิน เป็นโค้ชในขณะนั้น และสร้างผลงานการยิงประตูได้อย่างยอดเยี่ยม จนคว้ารางวัลดาวซัลโวในฤดูกาล 2542 ที่จำนวน 13 ประตู และได้ตำแหน่งดาวซัลโวอีกครั้งในฤดูกาล 2543 ที่จำนวน 16 ประตู โดยนับเป็นนักฟุตบอลคนแรกที่ได้รางวัลดาวซัลโวในลีกสูงสุดของไทยถึง 2 สมัยติดต่อกัน

สุธี ยายมาเล่นฟุตบอลที่ประเทศสิงคโปร์ ในเอสลีก ฤดูกาล 2544 กับสโมสรตันจง ปาการ์ ยูไนเต็ด ที่มีนักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์ของทีมชาติสิงคโปร์อย่างดาเนียล เบนเนต เล่นอยู่ด้วย โดยสุธีลงเล่นภายใต้การคุมทีมของโตฮารี ไปจาน โค้ชชาวสิงคโปร์

สุธีได้รับเบอร์เสื้อหมายเลข 39 และลงสนามให้สโมสรเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2544 ในนัดที่พบกับสโมสรมารีน คาสเซิล ยูไนเต็ด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นสโมสรโห่วกั่ง ยูไนเต็ด) โดยสุธีลงเล่นเป็นกองหน้าตัวจริง และช่วยให้สโมสรบุกมาชนะ 1-0 ถึงสนามกีฬาโห่วกั่ง โดยนับเป็นการลงเล่นในเอสลีก สิงคโปร์เป็นครั้งแรกของเขาอีกด้วย

ต่อมาสุธี สุขสมกิจ ยิงประตูแรกของเขาในเอสลีกได้ ในนัดที่เปิดสนามควีนส์ทาวน์ สเตเดียม เอาชนะสโมสร จูรง เอฟซี ถึง 5-1 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม

ในเดือนเมษายน สุธี ยิงอีก 1 ประตูในนัดที่แพ้สโมสรสิงคโปร์ อาร์มฟอร์ซ (วอริเออร์ส เอฟซี ในปัจจุบัน) คาบ้าน 2-3 เมื่อวันที่ 11 เมษายน และในนัดที่พบกับสโมสรกอมบัค ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 26 เมษายน สุธี ยิงคนเดียว 2 ประตูและพาสโมสรชนะไปได้ 5-1

เดือนมิถุนายน ช่วงเลกที่ 2 ของฤดูกาล 2544 สุธี ยิงประตูช่วยให้สโมสรเปิดบ้านเอาชนะมารีน คาสเซิล ยูไนเต็ด 2-0 จากนั้นเขายิงประตูให้ทีมบุกมาเสมอกับจูรง เอฟซี ที่สนาม จูรง อีสต์ 1-1 และยิงได้ในนัดที่บุกมาชนะสิงคโปร์ อาร์ม ฟอร์ซถึงสนามฉั่วฉู่กั่ง สเตเดียม 2-4

สุธี ทำผลงานในฤดูกาลแรกอย่างยอดเยี่ยม และเป็นที่จดจำของแฟนบอลตันจง ปาการ์ จากการทำแฮตทริกได้ ในนัดที่เปิดสนามควีนส์ทาวน์ ถล่มสโมสรเซมบาวัง เรนเจอร์ส ไปถึง 5-1 เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2544

ช่วงท้ายฤดูกาล เขายิงประตูใส่สโมสรทัมปิเนส โรเวอร์สถึงถิ่นทัมปิเนส สเตเดียม แต่สโมสรกลับแพ้กลับออกไป 2-1 และมายิงในนัดที่บุกมาชนะสโมสรวู้ดแลนด์ เวลลิงตัน 3-1 ที่สนามวู้ดแลนด์ สเตเดียม

ต่อมาในฤดูกาล 2545 สุธี เปลี่ยนมาใส่เสื้อหมายเลข 9 โดยตันจง ปาการ์ เริ่มต้นฤดูกาลด้วยการแพ้ 2 นัดรวด และสุธี ช่วยให้สโมสรคว้าชัยชนะนัดแรกของฤดูกาลได้สำเร็จ ด้วยการยิงคนเดียว 2 ประตูในนัดที่บุกมาชนะสโมสรเซมบาวัง เรนเจอร์ส ถึงสนามอี้ซุ่น สเตเดียม 2-3 เมื่อวันที่ 8 มีนาคม จากนั้นในนัดต่อมาที่เปิดบ้านพบกับสโมสร เกย์ลัง ยูไนเต็ด เขายิงประตูได้แต่สโมสรแพ้คาบ้านไป 1-2

ช่วงแรกของฤดูกาล 2545 สโมสรมีผลงานไม่ค่อยดีนัก แม้ต่อมาสุธี จะยิงได้ 4 นัดติดต่อกัน แต่สโมสรก็แพ้ถึง 3 นัด โดยสุธี ยิงได้ในนัดที่ออกไปแพ้สโมสรโฮม ยูไนเต็ด ที่สนามปี้ซาน สเตเดียม 4-2 ,ออกไปแพ้จูรง เอฟซี 2-1 และยิงในนัดที่แพ้คาบ้านต่อทัมปิเนส โรเวอร์ 1-2 ก่อนจะยิงประตูช่วยให้สโมสรบุกมาชนะ วู้ดแลนด์ เวลลิงตัน 2-3

ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2552 สุธี ย้ายไปเล่นให้กับสโมสรเมลเบิร์น วิคตอรี ในเอลีก ประเทศออสเตรเลีย ด้วยสัญญายืมตัวเป็นระยะเวลา 3 เดือนจากสโมสรทัมปิเนส โรเวอร์ส โดยสุธีย้ายมาในฐานะนักฟุตบอลรับเชิญของสโมสร ซึ่งเป็นโควต้าพิเศษที่ลงเล่นในลีกได้ไม่เกิน 3 เดือน อย่างไรก็ตามเขาถือเป็นนักฟุตบอลไทยคนที่สองที่ได้เล่นฟุตบอลในลีกอาชีพของประเทศออสเตรเลีย ต่อจากสุรัตน์ สุขะ

ที่สโมสรแห่งนี้สุธี ได้รับเสื้อหมายเลข 27 และลงเล่นภายใต้การคุมทีมของเออร์นี เมอร์ริก โค้ชชาวสก็อตติช-ออสเตรเลียน โดยลงสนามเป็นครั้งแรกให้สโมสรในการแข่งขันเอลีก ฤดูกาล 2009-2010 นัดที่เปิดสนามเอติฮัต สเตเดี้ยมพบกับสโมสรอดิเลด ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2552 โดยสุธี ที่ลงเล่นเป็นกองหน้าตัวจริงสามารถจ่ายให้เพื่อนร่วมทีมยิงประตูได้ ก่อนจะชนะไป 3-1

ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ประเทศออสเตรเลีย สุธี ลงเล่นในเอลีก ทั้งหมด 9 นัด แต่ไม่สามารถยิงประตูได้ ก่อนจะหมดสัญญากับสโมสรต้นสังกัดในเวลาต่อมา

ปลายเดือนธันวาคม พ.ศ. 2552 สุธี กลับมาเล่นฟุตบอลในเมืองไทยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี โดยเขาย้ายมาเล่นให้กับสโมสรบางกอกกล๊าส ที่มีสุรชัย จตุรภัทรพงษ์ เป็นกุนซือใหญ่ในขณะนั้นแบบไม่มีค่าตัว และเลือกสวมเสื้อหมายเลข 10

สุธี ลงเล่นให้สโมสรบางกอกกล๊าสนัดแรกในรายการฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานควีนส์คัพ ครั้งที่ 34 เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 โดยในการลงเล่นนัดแรก เขาก็สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการยิงคนเดียว 2 ประตู ในชัยชนะเหนือสโมสรสินธนา 7-1 ที่สนามกีฬาสิรินธร และยิงอีกหนึ่งประตูช่วยให้สโมสรเอาชนะชลบุรี เอฟซี ไป 3-0 โดยในการแข่งขันควีนส์คัพ สุธี เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมจนพาทีมทะลุเข้ามาชิงชนะเลิศกับสโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ และเอาชนะไปได้ 4-1 คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ

ต่อมา สุธี สุขสมกิจ ลงสนามในลีกครั้งแรกให้สโมสรในวันที่ 24 มีนาคม ในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก 2553 นัดที่เปิดบ้านเอาชนะสโมสรเพื่อนตำรวจ ไปได้ 1-0 ที่สนามลีโอ สเตเดียม และมายิงประตูแรกในลีกให้ต้นสังกัดได้เมื่อวันที่ 18 เมษายน ในไทยพรีเมียร์ลีก นัดที่เล่นในบ้านพบกับสโมสรฟุตบอลทหารบก โดยสุธี ยิงคนเดียว 2 ประตู และพาทีมชนะไป 3-1

ต่อมาในวันที่ 1 พฤษภาคม สุธี ยิงประตูได้อีกครั้ง โดยยิงให้ทีมตีเสมอสโมสรพัทยา ยูไนเต็ด 1-1 ที่สนามกีฬาหนองปรือ และช่วยให้ทีมแบ่งแต้มออกมาได้สำเร็จ

ในช่วงเดือนมิถุนายนสโมสรเปลี่ยนแปลงผู้ฝึกสอนเป็นการ์ลอส โรเบร์โต คาวัลโญ่ โค้ชชาวบราซิลและกำลังมีผลงานในลีกที่ยอดเยี่ยม แต่สุธี กลับมาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ระหว่างการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก นัดที่เปิดบ้านถล่มสโมสรราชนาวี 5-0 เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน โดยเขาได้รับบาดเจ็บจากการเข้าปะทะกับศุภชัย ขำทรัพย์ กองกลางของสโมสรราชนาวี จนเอ็นเข่าซ้ายฉีกขาด ต้องพักยาวกว่า 4 เดือน

หลังหายจากอาการบาดเจ็บ สุธีกลับมาลงสนามได้อีกครั้งในวันที่ 17 ตุลาคม ในไทยพรีเมียร์ลีกนัดที่บุกไปเสมอกับราชนาวี 3-3 ที่สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง โดยถูกส่งลงมาเล่นในช่วง 5 นาทีสุดท้าย จากนั้นสุธี สามารถยิงประตูได้ในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยโตโยต้า ลีกคัพ 2553 รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง ซึ่งเขาช่วยให้ต้นสังกัดบุกมาชนะสโมสรชลบุรี เอฟซี 2-0 ที่สนามสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชลบุรี โดยประตูดังกล่าวถือเป็นประตูแรกที่สุธี ยิงได้ในการแข่งขันถ้วยลีกคัพ ก่อนจะพาทีมผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย

จบฤดูกาล 2553 บางกอกกล๊าส จบอันดับที่ 5 ในลีก โดยสุธี ลงสนามในฤดูกาลแรกของเขากับสโมสรทั้งหมด 22 นัด (ไทยพรีเมียร์ลีก 11 นัด, ลีกคัพ 5 นัด, ควีนส์คัพ 6 นัด) และยิงประตูได้ 7 ประตู (ยิงในไทยพรีเมียร์ลีก 3 ประตู, ลีกคัพ 1 ประตู และ ควีนส์คัพ 3 ประตู)

ต่อมาในฤดูกาล 2554 สโมสรเปลี่ยนแปลงผู้ฝึกสอนเป็นอาจหาญ ทรงงามทรัพย์ โดยสุธี เปลี่ยนมาใส่เสื้อหมายเลข 8 และทำประตูแรกในฤดูกาลนี้ได้เมื่อวันที่ 17 เมษายน ในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีกนัดที่ถล่มสโมสรราชนาวีไป 4-0 ที่สนามลีโอ สเตเดียม

วันที่ 21 พฤษภาคม ระหว่างการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก นัดที่บุกไปชนะบีอีซี เทโรศาสน 2-0 ที่สนามเทพหัสดิน สุธี สุขสมกิจ ได้รับบาดเจ็บบริเวณโหนกแก้มขวาจากการเข้าปะทะกับผู้เล่นบีอีซี เทโรศาสน จนต้องเข้ารับการผ่าตัด

หลังจากต้องรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ถึง 3 เดือน สุธีกลับมาลงสนามได้ในเดือนกันยายน และต่อมาสโมสรได้นำสุรชัย จตุรภัทรพงษ์กลับมาคุมทีมอีกครั้ง และสุธี มีส่วนช่วยให้สโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 4 โดยลงสนามในไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้รวม 18 นัด ยิงได้ 1 ประตู

ต่อมาใน ฤดูกาล 2555 สุธี ยิงประตูแรกในไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ได้ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 ในนัดที่เปิดบ้านเอาชนะสโมสรสมุทรสงคราม เอฟซี 4-1 แต่เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่รบกวนอยู่เป็นระยะๆ ทำให้เขาไม่ค่อยได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ โดยฤดูกาลนี้เขาลงสนามในไทยพรีเมียร์ลีกให้สโมสรช่วงครึ่งฤดูกาลแรก 10 นัด และยิงในลีกได้ 1 ประตู ก่อนจะถูกสโมสรปล่อยตัวออกจากทีมในเดือนมิถุนายน

ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2555 สุธี สุขสมกิจ ย้ายมาเล่นให้สโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี ในระดับดิวิชั่น 1 ภายใต้การคุมทีมของวรวุฒิ ศรีมะฆะ และได้เสื้อหมายเลข 23

โดยสุธี ลงสนามให้สุพรรณบุรี เอฟซี เป็นนัดแรกในการแข่งขันโตโยต้า ลีกคัพ 2555 รอบ 32 ทีมสสุดท้าย เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ในนัดที่เปิดบ้านเอาชนะสโมสรสมุทรสงคราม เอฟซี 2-0 โดยเป็นตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลงมาในครึ่งหลัง จากนั้นเขาได้ลงสนามในระดับดิวิชั่น 1 เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ในนัดที่เอาชนะสโมสรบางกอก เอฟซี 3-0 ที่สนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี

โดยสุธี ลงสนามในดิวิชั่น 1 ทั้งหมด 14 นัด และเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้สุพรรณบุรีคว้ารองแชมป์และเลื่อนชั้นกลับสู่ไทยพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จเมื่อจบฤดูกาล

ในฤดูกาล 2556 ด้วยอายุที่มากขึ้น ทำให้สุธี ไม่สามารถลงเล่นเต็ม 90 นาทีได้บ่อยนัก แต่ก็ยังเป็นผู้เล่นที่มักจะถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลัง และมักจะสร้างจุดเปลี่ยนสำคัญให้กับทีมเสมอๆ ในฤดูกาลนี้สุธี ลงสนามให้สโมสร 20 นัด (ไทยพรีเมียร์ลีก 17 นัด ฟุตบอลถ้วย 3 นัด) ยิงได้ 3 ประตู

ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2557 สุธี สุขสมกิจ ในวัย 36 ปี ย้ายมาเล่นในระดับดิวิชั่น 1 กับสโมสรยาสูบ เอฟซี ภายใต้การคุมทีมของพนิพล เกิดแย้ม และได้เบอร์เสื้อหมายเลข 20

โดยสุธี ลงสนามนัดแรกให้ยาสูบ เอฟซี เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 ในการแข่งขันลีกดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2558 นัดที่ออกไปแพ้ให้กับสโมสรเพื่อนตำรวจ 0-1 ที่สนามลีโอ สเตเดียม

1 นริศ ? 2 วสันต์ ? 4 ทัศนา ? 6 อำนาจ (c) ? 7 มีเชลีนี ? 8 เอกพันธ์ ? 9 เลอันโดร ? 10 ศุภเสกข์ ? 11 กรกช ? 14 ธีรเทพ ? 15 ภูริทัต ? 16 ปีเตอร์ แลง ? 17 วสันต์ ? 18 กฤษณะ ? 19 เอกภพ ? 20 ซารูตะ ? 22 เยอร์โควิช ? 23 พีรพงษ์ ? 25 คาอิมบี ? 26 ซูบาร่า ? 27 อนันต์ ? 28 องอาจ ? 29 ชาตรี ? 30 ประวีณวัช ? 31 เมน่า ? 32 ปิยะชาติ ? 33 ทัยวัฒน์ ? 34 ชัชนันท์ ? 36 สุวรรณภัทร์ ? 37 สุบรรณ ? 38 สุรศักดิ์ ? 39 ธนาสิทธิ์ ? 40 วัสพล ? หัวหน้าโค้ช : อรรถพล


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

เบอร์ลินตะวันออก ประเทศเยอรมนีตะวันออก ปฏิทินฮิบรู เจ้า โย่วถิง ดาบมังกรหยก สตรอเบอร์รี ไทยพาณิชย์ เคน ธีรเดช อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ตะวันทอแสง รัก 7 ปี ดี 7 หน มอร์ มิวสิค วงทู อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป รุ่น 2 เธอกับฉัน เป๊ปซี่ น้ำอัดลม แยม ผ้าอ้อม ชัชชัย สุขขาวดี ประชากรศาสตร์สิงคโปร์ โนโลโก้ นายแบบ จารุจินต์ นภีตะภัฏ ยัน ฟัน เดอร์ไฮเดิน พระเจ้าอาฟงซูที่ 6 แห่งโปรตุเกส บังทันบอยส์ เฟย์ ฟาง แก้ว ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ เอ็มมี รอสซัม หยาง มี่ ศรัณยู วินัยพานิช เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน เค็นอิชิ ซุซุมุระ พอล วอล์กเกอร์ แอนดรูว์ บิ๊กส์ ฮันส์ ซิมเมอร์ แบร์รี ไวต์ สตาญิสวัฟ แลม เดสมอนด์ เลเวลีน หลุยส์ที่ 4 แกรนด์ดยุคแห่งเฮสส์และไรน์ กีโยม เลอ ฌ็องตี ลอเรนโซที่ 2 เดอ เมดิชิ มาตราริกเตอร์ วงจรรวม แจ็ก คิลบี ซิมโฟนีหมายเลข 8 (มาห์เลอร์) เรอัลเบติส เฮนรี ฮัดสัน แคว้นอารากอง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน กันต์ กันตถาวร เอก ฮิมสกุล ปัญญา นิรันดร์กุล แฟนพันธุ์แท้ 2014 แฟนพันธุ์แท้ 2013 แฟนพันธุ์แท้ 2012 แฟนพันธุ์แท้ 2008 แฟนพันธุ์แท้ 2007 แฟนพันธุ์แท้ 2006 แฟนพันธุ์แท้ 2005 แฟนพันธุ์แท้ 2004 แฟนพันธุ์แท้ 2003 แฟนพันธุ์แท้ 2002 แฟนพันธุ์แท้ 2001 แฟนพันธุ์แท้ 2000 บัวชมพู ฟอร์ด ซาซ่า เดอะแบนด์ไทยแลนด์ แฟนพันธุ์แท้ปี 2015 แฟนพันธุ์แท้ปี 2014 แฟนพันธุ์แท้ปี 2013 แฟนพันธุ์แท้ปี 2012 ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ พรสวรรค์ บันดาลชีวิต บุปผาราตรี เฟส 2 โมเดิร์นไนน์ ทีวี บุปผาราตรี ไฟว์ไลฟ์ แฟนพันธุ์แท้ รางวัลนาฏราช นักจัดรายการวิทยุ สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 7 แบร์นาร์แห่งแกลร์โว กาอึน จิรายุทธ ผโลประการ อัลบาโร เนเกรโด ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เอมี่ อดัมส์ ทรงยศ สุขมากอนันต์ ดอน คิง สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) สาธารณรัฐเอสโตเนีย สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย เน็ตไอดอล เอะโระเก คอสเพลย์ เอวีไอดอล ช็อคโกบอล มุกะอิ

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23301